Lazada

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง

"หุบเขาวง" ตั้งอยู่ที่ ฮ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เฮ้ยยยยยย... สุพรรณเหรออออ เสียงอุทยานนน เฮ้ยย.. อุทานจากผม เป็นไปได้อย่างไรกัน สุพรรณ มีสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอออออ... ครับ ไม่ต้องตกใจไปน่ะครับ ที่นี่สุพรรณบุรีจริงๆๆ การเดินทางก้อแสนจะดวกมากกกก เลยครัช





เราเดินทางจาก กทม ถึง ด่านช้าง ใช้เวลา 4 ชม. หลังจากนั้นก้อไปดำเนินการเช่าพื้นที่ กางเต้นท์ ค่าบริการ 100บาท หลังจาก กางเต้นท์ เสร็จจัดการหาข้าวกินกัน ที่นี่มีอาหารคอยบริการด้วยน่ะครับ เราเลยจัดการสั่งชุดใหญ่เลย 1 ชุด อาหารที่นี่เรียกเป็นขันโตกน่ะครับ 1 ชุดจะมี ปลาเผา ต้มยำไก่ พริก-ผัก ข้าว1โถ รับประทานกันได้ 2-3 คน




เรามาคนเดียวเลยจัดชุดใหญ่ไป 555555 บอกได้คำเดียวว่าจุกเลย ครัชชชช...ที่หุบเขาวง น่ะครับไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ที่นี่เหมาะสำหรับ การพักผ่อนจริงๆๆๆ หากใครได้มาที่ "หุบเขาวง" รับรองต้องชอบแน่ๆๆครับบบบ...




ข้อมูลเฉพาะ
แพเล็ก หลังละ 400 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
แพใหญ่ หลังล่ะ 2000 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
เต้นท์ของอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หลังละ 150 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
เต้นท์ที่นำมาเอง หลังละ 100 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
ราคาค่าเข้าชมอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
-รถยนต์ คันละ 20 บาท
-รถจักยานยนต์ คันละ 10 บาท
สามารถประกอบอาหารเองได้แต่ต้องไม่ทำให้สถานที่เสียหาย
ห้ามส่งเสียงดังหลังเวลา 21.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ใหญ่ชุม 087-1577130
ประธานแอ้ว 092-0017068
คุณสนธยา 098-5819199
โทรจองแพ 092-4933833 (ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.)

ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์ : ตามรอยตะวัน
Facebook : ตามรอยตะวัน
Twitter : ตามรอยตะวัน
Google+ : ตามรอยตะวัน
Youtube : ตามรอยตะวัน

Instagram : ตามรอยตะวัน

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อุทยานรัชกาลที่ 2


อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือ อุทยาน ร. 2 ตั้งอยู่ที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ พื้นที่บริเวณนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2










อุทยาน ร. 2 จึงสร้างขึ้นเพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ ภายในอุทยานมีพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย เป็นอาคารทรงไทย 4 หลัง แสดงศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ที่สะท้อนให้เห็นลักษณะศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และการดำรงชีวิตของชาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 2







การจัดแสดงด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะครับ จึงมีแต่รูปบรรยากาศด้านนอก ภายในอาคารทรงไทยประกอบด้วย หอกลาง ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และจัดแสดงศิลปโบราณ วัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เช่น เครื่องเบญจรงค์ เครื่องถ้วย หัวโขน








ห้องชาย จัดแสดง ให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของชายไทย มีพระพุทธรูปสำหรับบูชา สมุดไทย เสื้อขุนนางไทยโบราณ ดาบ โล่ ห้องหญิง ตกแต่งให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของหญิงไทย โบราณ มีเตียงนอนแบบไทย โต๊ะเครื่องแป้ง คันฉ่อง ฉากปัก อาคารทรงไทยอีก 1 หลัง จัดแสดงแท่นพระบรรทมศิลปะแบบจีน ปีกอาคารด้านข้างซ้ายเป็นห้องจัดแสดงอาวุธสงคราม โบราณและข้าวของเครื่องใช้ของสตรีมีฐานะในอดีต ปีกด้านขวาเป็นห้องจัดแสดงเครื่องดนตรีไทย และศาลากลางอาคารใช้เป็นสถานที่ซ้อมโขนละคร









สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิดกว่า 140 ชนิด เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ท่าน้ำหลังอุทยาน อยู่ติดแม่น้ำแม่กลองมีศาลาเอนกประสงค์สำหรับพักผ่อนและชมบรรยากาศ ริมแม่น้ำแม่กลอง







อุทยานฯเปิดให้เข้าชมทุกวัน
โดยในวันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30-17.00 น. 
วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30-17.30 น. 
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท 

ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์ : ตามรอยตะวัน
Facebook : ตามรอยตะวัน
Twitter : ตามรอยตะวัน
Google+ : ตามรอยตะวัน
Youtube : ตามรอยตะวัน
Instagram : ตามรอยตะวัน








วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

ดอกเบญจมาศบาน

  งานดอกเบญจมาศบานในม่านหมอก
     เป็นงานที่รวมเอาของดีใน อ.วังน้ำเขียวมาจัดแสดงโชว์รวมทั้งไม้ดอกนานาชนิดมาจัดแสดงเรียกได้
     งานนี้สุขทั้งคนที่ไปเยี่ยมชมและเกษตรเลยทีเดียว




มีการแข่งขันดอกเบญจมาศที่ใหญ่ที่สุด มีผู้ว่าราชการจังให้เกียตริมาเป็นประธานเปิดงานด้วย และยัง
มีการแสดง แสง สี เสียง อีกด้วยครับ




การเดินทางมาที่ อ.วังน้ำเขียว ก้อสะดวกมากน่ะครับ งานนี้จัดขึ้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี ถ้าเดินทางมาจากโคราชก่อนเข้าตัวเมืองวังน้ำเขียว ให้เลี้ยวซ้าย แต่ถ้ามาจากปราจีนให้ขับรถเลยตัวเมืองสักประมาณ 5 กิโล มากลับรถแล้วเลี้ยวที่ปากทางไทยสามัคคี ได้เลย ขับรถเข้ามาประมาณ 7กิโลก้อจะเจอ อบต.ไทยสามัคคี อยู่ทางด้านซ้ายมือครับ....








นอกจากดอกเบญจมาศแล้ว วังน้ำเขียวยังไร่สตอเบอรี่ ผาชมตะวัน และ ผาเก็บตะวันอีกด้วย
วังน้ำเขียวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย รอนักท่องเที่ยวให้มาเยือน แล้วเจอกันที่วังน้ำเขียวครับ.....













อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tamroitawan.com
ติดตามเราได้ที่นี่ : Facebook ตามรอยตะวัน
                              Twitter ตามรอยตะวัน

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ภูเขาทอง

วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) อยู่นอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาคเดิมเป็นวัดเก่าชื่อว่า "วัดสะแก"



วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ภูเขาทอง

 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย








ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว








วัดสระเกศ หรือ วัดภูเขาทอง มีทางเข้าวัดที่สะดวก คือไปตามถนนจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งทอดผ่านด้านหน้าวัด มีซุ้มประตูใหญ่ติดถนน รถส่วนบุคคลและรถตู้สามารถผ่านเข้าออกได้สบายแต่ไม่สะดวกสำหรับรถบัส ต้องจอดให้ผู้โดยสารลงที่หน้าซุ้มประตูวัด แล้วเดินเข้าไปตามถนนเพียง ๑๐๐ เมตรก็ถึงซุ้มประตูกำแพงแก้ว ตรงด้านข้าวมีป้ายชี้ทางเข้าสู่พระอุโบสถ วัดสระเกศเปิดบริการให้นักท่องเทียวต่างประเทศเข้าชมฟรีทุกวันระหว่างเวลา ๐๘.๐๐ น.-๑๖.๐๐ น.